อินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน
Bookmark and Share

วันพุธที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2553

เขื่อน แม่น้ำโขง และอาเสี่ยตัวจริง

เขื่อน แม่น้ำโขง และอาเสี่ยตัวจริง

มีผู้เข้าอ่านหน้านี้แล้ว 31 คน

ปีนี้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ลดลงจนเหือดแห้ง ดูจะหนักหนาสาหัส ลดต่ำที่สุดในรอบ 20 ปีทีเดียว

ดูเหมือนไม่ใช่เฉพาะคนไทยริมฝั่งโขงที่เดือดร้อน คนลาว คนพม่า ไปจนถึงคนกัมพูชาและเวียดนามก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายสายแม่น้ำโขง

แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำที่ใหญ่เป็นอันดับ  8 ของโลก มีความยาว 4,160 กิโลเมตร  ยาวเป็นอันดับ 10 ของโลก มีปริมาณน้ำถึง   475,000 ล้านลูกบาศก์เมตร

จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ต้องยอมรับว่า แม่น้ำโขงที่เคยลึกท่วมหัวนับสิบเมตร ตอนนี้ปริมาณน้ำลดฮวบฮาบ ทำให้บางช่วงสามารถเดินข้ามไปฝั่งลาวได้ จนกลายเป็นปัญหายาเสพติด เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมยาบ้าที่ผู้ค้าแอบเดินข้ามแม่น้ำโขงมาจาก ฝั่งโน้น ได้มากกว่า 3 แสนเม็ด และต้องจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอดลำน้ำ

แล้งจัดกันมาก ๆ เรือที่เคยเดินล่องแม่น้ำโขงก็ต้องหยุดเดินกัน มีเรือสินค้าเกยตื้นกลางแม่น้ำไม่ต่ำกว่า 20 ลำ และเรือโดยสารที่ล่องตามน้ำโขงไปหลวงพระบาง ก็หยุดเดินไม่มีกำหนด ไม่สามารถสัญจรทางน้ำได้อีกต่อไป

สาเหตุสำคัญของปัญหาระดับน้ำที่ลดลงอย่างมากในหน้าแล้งนี้  เป็นเพราะปีนี้ฝนตกทางภาคใต้ของจีนน้อย ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงจึงน้อยกว่าปรกติ และทำให้เขื่อน 8 แห่งที่กั้นแม่น้ำโขงหรือแม่น้ำหลานชาง ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ต้องกักเก็บน้ำไว้ใช้ปั่นไฟผลิตกระแสไฟฟ้า

น้ำน้อยอยู่แล้ว ยังมาดันเก็บไว้ใช้คนเดียว คนที่อยู่ข้างล่างก็จ๋อยสิครับ

เขื่อนยักษ์ที่กั้นแม่น้ำโขงชื่อ เสี้ยวหวาน เป็นเขื่อนเศรษฐกิจแห่งใหม่ที่ใหญ่กว่าทุกเขื่อนที่สร้างมา สูงถึง 300 เมตร จุน้ำประมาณ 14,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ผลิตไฟฟ้าได้ 4,000 เมกกะวัตต์ เขื่อนแห่งนี้ต้องใช้เวลากักเก็บน้ำประมาณ 5 ปี

หมายความว่า น้ำจากต้นแม่น้ำโขงไม่ว่าจะเป็นจากหิมะละลายหรือฝนตกทางตอนเหนือ ก็จะถูกเขื่อนทั้งหลายรุมเก็บน้ำไว้เพื่อใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า จะปล่อยน้ำลงมาทางตอนล่าง ก็ต้องให้ความสำคัญกับการผลิตไฟฟ้าเป็นอันดับแรก

รัฐบาลจีนทราบดีว่า จะเร่งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวกระโดดทุกปี  ต้องมีแหล่งพลังงานเป็นปัจจัยพื้นฐาน จึงได้กำหนดให้มณฑลยูนนานเป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าสำคัญของประเทศจีนทางตอน ใต้ โดยตั้งเป้าให้ผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนให้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ถึง 100,000 เมกกะวัตต์ ขณะที่โครงการสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าตอนนี้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ไม่ถึง 20,000 เมกกะวัตต์

นั่นหมายความว่า คนสองฟากฝั่งแม่น้ำโขงคงต้องทำใจไปชั่วนิรันดร แม่น้ำโขงคงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป โครงการสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าในอนาคตคงเกิดขึ้นกันเป็นดอกเห็ด ปัญหาระดับแม่น้ำโขงลดลงมีแต่จะแย่ลงไปเรื่อย ๆ

คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง หรือเอ็มอาร์ซี ยอมรับว่า ปริมาณน้ำโขงทำร้ายคนสองฝั่งหลายล้านคนแน่นอน แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร และยังไม่ได้รับหนังสือร้องเรียนอย่างเป็นทางการใดๆจากรัฐบาลไทย จึงไม่สามารถไปเจรจากับทางการจีนในประเด็นดังกล่าวได้

แน่นอนว่า รัฐบาลไทยคงจะต้องเกรงใจจีนเป็นพิเศษ ในฐานะอาเสี่ยตัวจริง เสียงจริง ที่จะมาแทนที่สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นในไม่นาน

ขนาดเศรษฐกิจของจีนในปีนี้คาดว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นอันดับสองของโลก แซงหน้าญี่ปุ่น คาดกันว่า ปี 2010 นี้ ขนาดเศรษฐกิจโลกจะมีขนาดรวม 62.48 ล้านล้านดอลลาร์  หรือประมาณ 2,124 ล้านล้านบาท ของสหรัฐอเมริกาจะเท่ากับ 14.704 ล้านล้านดอลลาร์  จีนจะตามมาเป็นที่สอง ขนาด 5.263 ล้านล้านดอลลาร์ และญี่ปุ่นตกลงไปอยู่ที่สาม มีขนาดเศรษฐกิจ 5.187 ล้านล้านดอลลาร์

เมื่อมังกรผงาดขึ้นมาเป็นมหาอำนาจของโลกแล้ว กระทรวงต่างประเทศไทยจึงรีบปฏิเสธวีซ่าเดินทางของน้องสาว องค์ดาไล ลามะ ที่จะมาเข้าร่วมการแสดงทางวัฒนธรรมของธิเบตในกรุงเทพมหานคร ไม่เกี่ยวข้องกับการประท้วงเรียกร้องเอกราชของธิเบตเลย โดยกระทรวงต่างประเทศแถลงอย่างชัดเจนว่าเพราะไม่ต้องการให้จีนไม่พอใจ

ทั้ง ๆ ที่จีนยังไม่ทันเอ่ยปาก แสดงความไม่สบายใจแต่ประการใด กระทรวงต่างประเทศของเราก็ออกอาการก่อน เอาใจจีนจนลืมศักดิ์ศรีของประเทศตัวเอง

ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่า พอมีข่าวเรื่องน้ำแม่น้ำโขงแห้งลง บรรดาข้าราชการระดับอธิบดี ที่เกี่ยวข้องก็ลงพื้นที่ แต่แทนที่จะออกมาหาทางแก้ปัญหาน้ำที่ลดลงหรือช่วยเหลือชาวบ้าน  แต่กลับออกมาแก้ตัวแทนรัฐบาลจีน พร้อมกับฟันธงสรุปว่า เขื่อนไม่ใช่ปัญหาที่ทำให้ระดับน้ำลดลง

ดูเหมือนทางการไทยจะเกรงใจรัฐบาลจีน กลัวจะกระทบกระเทือนความสัมพันธ์จนมากเกินไป และปล่อยให้ชะตากรรมของแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านหกประเทศ  อยู่ภายใต้การกดปุ่มปิดเปิดประตูน้ำจากบริษัทพลังงานไฟฟ้าของจีนฝ่ายเดียว ที่กำลังจะเอาแม่น้ำโขง เป็น แม่น้ำส่วนตัว ในฐานะผู้ประมูลโครงการสร้างเขื่อนถึง 8 เขื่อนด้วยกันในแม่น้ำโขง

จะปล่อยให้อาเสี่ยทำตามอำเภอใจไปเรื่อย ๆ หรือถึงเวลาที่บรรดาลูกแม่น้ำโขงต้องเอาคืนกันบ้างแล้ว

ล่าสุดดร.ฮันซ์ จาราส นักกฎหมายสิ่งแวดล้อมของเยอรมนี ได้ให้ความเห็นถึงแนวทางแก้ปัญหาความขัดแย้งในการใช้น้ำของกลุ่มประเทศลุ่ม น้ำโขงว่า  ทางรัฐบาลไทย พม่า ลาว ควรจะเร่งเจรจากับจีน หากไม่สำเร็จ อาจจะใช้ช่องทางกฎหมายระหว่างประเทศยื่นฟ้องต่อศาลโลกให้พิจารณาเพื่อหา ทางออก เพราะที่ผ่านมาเคยมีกรณีประเทศฮังการีและสโลวะเกียเคยมีปัญหาการใช้แม่น้ำ ร่วมกัน  เนื่องจากประเทศหนึ่งมีการสร้างเขื่อนไปกั้นลำน้ำ อีกประเทศไม่มีน้ำใช้ เมื่อเรื่องขึ้นสู่ศาลโลก สามารถทำให้เกิดการไกล่เกลี่ยและแก้ปัญหาความขัดแย้งได้ในที่สุด

ศาลโลกดูจะเป็นความหวังมากกว่าที่ผ่านมา รัฐบาลไทยกล้าไหมครับ

มติชน  7 มกราคม 2553

http://www.sarakadee.com/blog/oneton/?p=596



--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
chun
http://tham-manamai.blogspot.com /sundara        
http://dbd-52hi5com.blogspot.com/ dbd_52
http://thammanamai.blogspot.com/ อายุวัฒนา
http://sunsangfun.blogspot.com/ suntu
http://originality9.blogspot.com/ originality
http://wisdom1951.blogspot.com/ wisdom

วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2553

จีนบอกปัดคำขอไทยให้เปิดเขื่อนแก้วิกฤตน้ำโขงแล้ง ภาคประชาสังคมเตรียมกดดันต่อในที่ประชุมเอ็มอาร์ซี


ภาพจาก gotoknow.org

วันที่ 07 มีนาคม พ.ศ. 2553 เวลา 19:32:38 น.  มติชนออนไลน์

จีนบอกปัดคำขอไทยให้เปิดเขื่อนแก้วิกฤตน้ำโขงแล้ง ภาคประชาสังคมเตรียมกดดันต่อในที่ประชุมเอ็มอาร์ซี

แฉ ผู้ว่าฯเชียงรายทำหนังสือให้จีนเปิดเขื่อนแก้วิกฤตน้ำโขงแห้งขอด แต่ถูกปฏิเสธ

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ชมรมผู้สื่อข่าวสิ่งแวดล้อม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับเครือข่ายแม่น้ำเพื่อชีวิต สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ลงพื้นที่สำรวจปัญหาการลดลงของแม่น้ำโขงในพื้นที่บริเวณศาลาท่าน้ำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย สุดเขตแดนประเทศไทยติดต่อสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน (สปป.) ลาว  ระหว่างวันที่ 6-7 มีนาคมที่ผ่านมา พบว่าขณะนี้น้ำในแม่น้ำโขงแห้งเป็นลานดินขนาดใหญ่ในพื้นที่ฝั่งไทย เหลือเพียงร่องน้ำแคบๆ ในฝั่งลาวเท่านั้น ชาวบ้านให้ข้อมูลว่าเดือนเมษายนของทุกปี น้ำในแม่น้ำโขงจะมีระดับสูงพอที่จะจัดการแข่งขันเรือยาวประเพณีระหว่างประเทศไทย ลาว และพม่าได้ แต่ปีนี้ไม่สามารถจัดงานได้ เพราะน้ำแห้งมาก

 

นายมิติ ยาประสิทธิ์ ผู้ประสานงานกลุ่มรักษ์เชียงแสนกล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมา ชาวเชียงแสนกำลังคิดจะปรับตัวเพื่อรับสภาพน้ำในแม่น้ำโขงที่มักจะล้นตลิ่ง และไหลท่วมพืชผลทางการเกษตร แต่ปีนี้กลับเกิดปรากฎการณ์ที่ชาวบ้านไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน คือระดับน้ำเริ่มแห้งมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2552 จนหาปลา ทำการเกษตรไม่ได้ บางรายถึงขั้นคิดจะไปขายแรงงานในเมือง


"ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าฯเมืองยูนนาน ประเทศจีน ขอให้ปล่อยน้ำจากเขื่อนจิงหงมาช่วยเหลือพื้นที่ท้ายน้ำ แต่ได้รับแจ้งว่าไม่สามารถทำได้ เพราะต้องเก็บน้ำไว้สำหรับแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ ขณะที่รัฐบาลไทยก็ได้แต่เกรงใจจีนไม่กล้าดำเนินการใดๆ" นายมิติกล่าว


ร.อ.ธงชัย จันทร์มิตร รน.เจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง อ.เชียงแสน กล่าวว่า จากการติดตามข้อมูลการไหลอย่างผิดปกติของน้ำในแม่น้ำโขงตั้งแต่ปี 2539 ซึ่งเริ่มมีเขื่อนแห่งแรกพบว่าปริมาณน้ำขึ้นลงไม่เป็นไปตามปริมาณฝนที่ตก และไม่เป็นไปตามสถิติที่เคยเก็บไว้ตามฤดูกาลก่อนที่จะมีการสร้างเขื่อนในจีน
ด้านนายชวลิต วิทยนนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านปลาน้ำจืด ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า เคยสำรวจชนิดของปลาในแม่น้ำโขงที่สบกก อ.เชียงของ พบว่ามีประมาณ 80 ชนิด แต่วิกฤตนี้จะทำให้ปลาหายไปมากกว่าครึ่ง เช่น ปลาบึก ปลาสร้อย ปลาปาก ฯลฯ ปลาชนิดแรกที่จะได้รับผลกระทบคือ ปลาบึก เพราะต้องว่ายทวนน้ำจากบริเวณน้ำตกหลี่ผี แขวงจำปาสัก สปป.ลาว ขึ้นมาวางไข่ที่แก่งคอนผีหลง อ.เชียงของ จ.เชียงราย เมื่อน้ำลดอย่างนี้โอกาสแพร่พันธุ์ก็จะหายไป 1 ปี ทั้งที่ใกล้จะสูญพันธุ์อยู่แล้ว


"การที่แม่น้ำโขงแห้งจนวิกฤตเวลานี้มาจากหิมะบนเทือกเขาหิมาลัยละลายมากขึ้น จากภาวะโลกร้อน และยิ่งจีนสร้างเขื่อนก็ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น" นายชวลิต กล่าว


นายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการที่ได้ล่องเรือสำรวจแม่น้ำโขงเห็นชัดเจนว่าปัญหาดังกล่าวขึ้นกับการปิดเปิดเขื่อนในจีน แต่ไม่มีใครเป็นเจ้าภาพรับผิดชอบ ดังนั้นวันที่ 8 มีนาคมนี้ จะตั้งกระทู้ในที่ประชุมวุฒิสภา


ขณะที่นางเตือนใจ ดีเทศน์ กล่าวว่า การใช้แม่น้ำนานาชาติในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงต้องมีกติการ่วมกัน เพราะจีนพูดเสมอว่าถ้ามีข้อมูลทางวิชาการชี้ชัดว่าน้ำท่วมน้ำแล้งเพราะเขื่อนในจีน จีนจะยอมรับและร่วมมือ ดังนั้นรัฐสภาจะผลักดันกติการ่วมใน 6 ประเทศให้เร็วที่สุด และนายกรัฐมนตรีต้องดูแลเรื่องนี้ด้วยตัวเอง


ด้านนายนิวัติ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ กล่าวว่า ขณะนี้สามารถสรุปผลกระทบในแม่น้ำโขงในรอบ 10 ปี ได้ 5-6 ประเด็น คือ การสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ในจีน ปัญหาการระเบิดเกาะแก่งเพื่อใช้ในการเดินเรือพาณิชย์ การใช้สารเคมี การทำประมงผิดวิธี การบุกรุกพื้นที่ชุ่มน้ำ


"แต่เขื่อนในจีนมีผลมากที่สุด โดยหลังจากเปิดเขื่อนแห่งแรกในปี 2536 ชาวบ้านรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ กระทั่งปี 2546 ที่เขื่อนแห่งที่ 2 และ 3 เปิดใช้ทำให้ชัดเจนว่า การปิดและเปิดเขื่อนของจีนเป็นสาเหตุสำคัญ โดยปี 2551 เกิดน้ำท่วมที่เชียงของ แค่หนึ่งคืนมีน้ำสูงถึง 1 เมตร กระทั่งมีเขื่อนแห่งที่ 4 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 น้ำก็แห้งตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา เหลือเพียง 0.38 เมตร ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในการประชุมคณะกรรมาธิการลุ่มน้ำโขง (เอ็มอาร์ซี) ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในเดือนเมษายนนี้ เครือข่ายลุ่มน้ำโขงในภาคเหนือและภาคอีสานจะเคลื่อนไหวใหญ่ โดยจะเปิดเวทีคู่ขนาน  รวมทั้งจะไปตั้งเวทีที่หน้าสถานทูตจีน เพื่อกดดันให้จีนแสดงสปิริต และจะทำหนังสือเชิญชวนไปยังรัฐบาลในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงให้ร่วมกันกดดันด้วย" นายนิวัติกล่าว


ด้านนายอภิสิทธิ์   เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ �เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ� เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ว่า รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาผลกระทบต่อแม่น้ำโขงและยังสงสัยอยู่ว่าจะเกี่ยวข้องกับประเทศจีนหรือไม่อย่างไร ซึ่งในวันที่ 8 มีนาคมนี้ที่จะมีโอกาสพูดคุยกับตัวแทนของจีน จะขอให้จีนร่วมมือในการบริหารจัดการน้ำไม่ให้ประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงได้รับผลกระทบ 


"รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ  แต่ก็ต้องขอความร่วมมืออีกครั้งหนึ่งว่า การใช้น้ำเพื่อการเกษตร ต้องร่วมกันบริหารจัดการ เพราะเราต้องมีน้ำใช้เพียงพอสำหรับข้าวนาปีซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด" นายอภิสิทธิ์กล่าว

 

-----------------------------------

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://gotoknow.org/file/parpak/view/78825

                                http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1267965206&grpid=&catid=04

--
โปรดอ่านบล็อก
http://www.pridiinstitute.com
http://www.nakkhaothai.com
http://apps.facebook.com/blognetworks/index.php
http://www.roundfinger.com/
http://twitter.com/sweetblog
http://twitter.com/oknewsblog
http://twitter.com/okblogger
http://twitter.com/sat191
http://www.pacc.go.th/
http://twitter.com/okblogchan
http://twitter.com/sun1951
http://twitter.com/smeblogger
http://twitter.com/seminarblog
http://twitter.com/sunnewsblog
http://twitter.com/okworldblog
http://twitter.com/ktblogger
http://twitter.com/sundayblog
http://twitter.com/mondayblog
http://twitter.com/tuesdayblog
http://twitter.com/wednesdayblog
http://twitter.com/thursdayblog
http://twitter.com/fridayblog
http://twitter.com/saturdayblog
http://www.deepsouthwatch.org/node/687
http://www.tu.ac.th/org/ofrector/tu_council/record/nopporn.htm

วันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2553

มารู้จักธุรกิจเงินออม กับแนวคิดใหม่ ที่ดีที่สุดตอนนี้.........

       
  สนใจติดต่อสอบถาม  

ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ การวางแผน การสร้างรายได้ที่มั่นคงตลอดไป

 

    คุณบดินทร์

 

ขอต้อนรับสู่โลกแห่งธุรกิจออมทรัพย์แห่งแรกของไทย

 

    081-8030202

 

กับบริษัทฯ ประกันชีวิต ที่อยู่คู่ประเทศไทยมากว่า 58 ปี มีสาขาทั่ว 12 แห่งทั่วประเทศ

 

 www.wealthteamthailand.notlong.com

 

และเป็นบริษัทฯที่มั่นคงติดอันดับโลก

 

    E-mail - wealthpack@hotmail.com

 

คลิกเลย...

 
   

  http://www.wealthteamthailand.notlong.com

 

     
 

เรา...ไม่ได้ชวนคุณมาขายประกัน...เราชวนคุณมาทำธุรกิจ...

 

...ทำเพื่อเป็นไปตามฝันที่ต้องการ...  ทำเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงตลอดไป...

   
    เพียงคุณใช้เวลาใน Internet เพียงวันละ 1-2 ชม.  คุณก็สามารถสร้างรายได้เสริม
    หรือจะสร้างเป็นรายได้หลัก  ได้อย่างง่ายๆ  
       
   

หมดเวลา... สำหรับการปฏิเสธ...

 
       
   

เพราะ  เรา... ทำให้การออมเงินเป็นเรื่องง่าย...

 
       
   

คลิก...ด่วน

 
   

http://www.wealthteamthailand.notlong.com

 
       
   

เรา... มีระบบสนับสนุนที่พร้อมจะสนับสนุนให้คุณประสบความสำเร็จ...

 
   

เรา... มีทีมงาน ที่พร้อมจะช่วยแก้ปัญหาให้คุณ

 
   

ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร... ก็สมารถทำธุรกิจนี้ได้อย่างง่ายๆ (ต้องอายุเกิน 20 ปี)

 
       
   

ด้วยการทำธุรกิจในลักษณะ E Marketing ทำได้ง่ายทั้งที่บ้าน หรือที่ทำงาน

 
   

โดยผ่านระบบ Internet ของคุณ หรือ ผ่านระบบ มือถือของคุณ

 
       
   

เริ่มต้นเดี่ยวนี้... ไม่มีเวลาที่ให้ปฎิเสธอีกต่อไปแล้ว...

 
   

กับธุรกิจออมเงิน  ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล  และกระทรวงการคลัง

 
       
       
    กรอกข้อมูล เพื่อขอรับรายละเอียด  
    หรือติดต่อ  คุณบดินทร์ 081-803-0202  
    http://www.wealthteamthailand.notlong.com  
       
       

20-21 มีนาคม 2553 ณ อาศรมพลังงาน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา อาศรมพลังงาน Talk : ล้อมวงเสวนาสถานการณ์โลกร้อน

งานโฮม อาศรมพลังงาน Talk : ล้อมวงเสวนาสถานการณ์โลกร้อน

Activity Date: 
Sat, 2010-03-20 09:00

               

 

งานโฮม Together

ตอน
อาศรมพลังงาน Talk : ล้อมวงเสวนาสถานการณ์โลกร้อน

20-21 มีนาคม 2553 ณ อาศรมพลังงาน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
 

สอบถามรายละเอียดที่
044-297621
se@ata.or.th