From: sataya phongsasumitr <satayap@hotmail.com>
Date: ต.ค. 9, 2009 7:37 หลังเที่ยง
Subject: ข่าวโลกร้อน 9 ต.ค. (วันปิด)
To:
ข่าวโลกร้อน 9 ต.ค. 2552 (วันปิดการเจรจา)
เวทีเจรจาโลกร้อนกรุงเทพปิดฉากอย่างเลื่อนลอย ท่ามกลางเสียงประณามข้างเวที ขณะที่ UNFCCC สรุป “เป็นการก่ออิฐฉาบปูนไว้ให้ข้อตกลงโคเปนเฮเกน” แต่ยอมรับสาระสำคัญการเจรจาไม่คืบ ความเห็นขัดแย้งคงอยู่ อียูยันหนุนพิธีสารเกียวโตต่อแต่ขอให้สหรัฐเข้าร่วมด้วย ด้านเอ็นจีโอรุมประนามสหรัฐตัวการใหญ่ขัดขวางกระบวนการเจรจา
วันนี้ เวทีเจรจาโลกร้อนวันสุดท้ายเป็นวันแห่งการ (พยายาม) สรุปของทุกฝ่าย ทั้งเจ้าของเวทีอย่าง UNFCCC มุ้งใหญ่อย่าง อียู สหรัฐ อินเดีย และกลุ่ม จี 77+จีน หรือมุ้งเล็กอย่างเอ็นจีโอค่ายต่าง ๆ นำโดยเจ้าประจำที่ติดตามการเจรจาอย่าง CAN (Climate Action Network) Third World Network (TWN) หรือรายองค์กรอย่าง WWF กรีนพีซซึ่งได้ร่วมกันผลักข้อตกลงโคเปนเฮเกนในนาม Global Campaign for Climate Action (GCCA)
นายโว เดอ บัว (Yvo de Boer) เลขาธิการการเจรจาโลกร้อนยูเอ็น UNFCCC Executive Secretary กล่าวว่าผลที่ได้จากการเจรจาที่กรุงเทพเป็นเสมือนการก่ออิฐโบกปูนสำหรับข้อตกลงโคเปนเฮเกนที่จะมีในเดือนธันวาคมนี้ แต่ยอมรับว่ายังคงไม่มีความชัดเจนในหลายประเด็นสำคัญที่ยังคงมีความเห็นขัดแย้งกันระหว่างภาคีสมาชิกอนุสัญญาฯ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับการบังคับใช้ในทางปฏิบัติ
“เจตนาเบื้องต้นสำหรับการเจรจากรุงเทพฯ ที่ออกแบบคือเพื่อให้การดำเนินการเรื่องโลกร้อนทำได้เร็วขึ้น แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญคงอยู่ ธันวาคมนี้ ทุกคนบนโลกจะได้รับทราบพร้อม ๆ กันอย่างชัดเจนว่ารัฐบาลพวกเขาจะทำอะไรเพื่อป้องกันมหันตภัยโลกร้อน มันเป็นเวลาที่เราต้องถอยออกจากผลกระโยชน์ส่วนตัวและหันมามองประโยชน์ส่วนรวมเป็นธงนำ” นายเดอบัวกล่าวในการแถลงข่าววันนี้
“เวทีเจรจาทำให้เกิดความก้าวหน้าในประเด็นการปรับตัวรับมือ การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการเสริมสร้างศักยภาพ รวมถึงสามารถตกลงกันได้ในประเด็นเชิงเทคนิคเรื่องการจัดการป่าไม้ และการใช้ที่ดินเพื่อบรรเทาวิกฤตโลกร้อน รวมถึงวิธีการประเมินศัยกภาพของก๊าซเรือนกระจกตัวใหม่ ๆ และหาทางเลือกที่จะทำให้กลไกซีดีเอ็มของพิธีสารเกียวโตใช้การได้มีประสิทธิผลยิ่งขึ้น”
“มีความก้าวหน้าเล็กน้อยเท่านั้นในประเด็นการตั้งเป้าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศอุตสาหกรรมในระยะกลาง เช่นเดียวกับเรื่องกลไกการเงินที่ประเทศกำลังพัฒนาเรียกร้องให้มีเพื่อช่วยในการลดก๊าซฯ และปรับตัว”
“ตัวอย่างที่ดีเรื่องนี้คือ นอร์เวย์ที่วันนี้ประกาศเป้าการลดก๊าซในประเทศอย่างต่ำ 40 เปอร์เซ็น(ของระดับการปล่อยปี 1990)”นายเดอบัวกล่าว
ขณะที่ประชาคมยุโรปออกแถลงการณ์บอกว่าการประชุมที่กรุงเทพได้ทำให้การเจรจาโลกร้อนมีความก้าวหน้าขึ้น “ระดับหนึ่ง” คือการทำให้ร่างเจรจาลดจำนวนหน้าลงและทำให้ลำดับขั้นตอนการเจรจาชัดเจนขึ้น
“อียูหวังที่จะได้ข้อตกลงที่โคเปนเฮเกนซึ่งพัฒนาจากรากฐานพิธีสารเกียวโตที่มีอยู่ แต่เข้าร่วม (ให้สัตยาบัน) โดยสมาชิกอนุสัญญา(ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) ทั้งหมด รวมถึงสหรัฐด้วย” นายแอนเดอร์ส ตูเรซซอน (Anders Turesson) หัวหน้าทีมเจรจาสวีเดนกล่าวในนามกลุ่มอียู
อนุสัญญาฯโลกร้อนมีภาคีสมาชิกที่ให้สัตยาบัน 192 ประเทศในปัจจุบัน ขณะที่สมาชิกที่ให้สัตยาบันพิธีสารเกียวโตมี 184 ประเทศ ในจำนวนนี้มี 37 ประเทศที่เป็นประเทศอุตสาหกรรมใหญ่ซึ่งต้องมีพันธะกรณีต้องลดการปล่อยก๊าซ
ด้านสหรัฐฯ ซึ่งถูกโจมตีจากกลุ่มเอ็นจีโอ ภาคประชาชนและกลุ่มจี 77 แถลงในวันปิดเวทีกรุงเทพเพียงอธิบายว่าขณะนี้สหรัฐได้ดำเนินการภายในประเทศ มีการออกกฎหมายภายในว่าด้วยการดำเนินการลดโลกร้อน และกำหนดเป้าหมายที่จะลดให้ได้ 80 เปอร์เซ็นต์ภายใน 2050 แต่สำหรับความเห็นต่อพันธะสัญญาต่อประชาคมโลกนั้น “ยังคงไม่มีพันธะกรณี” ในส่วนนี้
ด้านกลุ่มจี 77 + จีนระบุว่าการเจรจาว่าด้วยตัวเลขการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามพิธีสารเกียวโตระยะ 2 หลังปี 2012 นั้นดำเนินไป “ช้ามาก” และ “ไม่คืบ” ในขณะที่ระยะเวลาการเจรจางวดลงทุกที ๆ ก่อนถึงเวทีโคเปนเฮเกน
“มีสัญญาณชัดเจนว่าประเทศพัฒนาแล้วภายใต้พิธีสารเกียวโตไม่ต้องการใช้พิธีสารเกียวโตต่อในระยะสอง และพยายามเสนอร่างข้อตกลงใหม่แทน (ซึ่งจะทำให้ต้องกลับไปเริ่มต้นเจรจาตั้งแต่เริ่มใหม่)” ส่วนหนึ่งของคำแถลงกลุ่มจี 77+จีน
ด้านเครือข่ายเอ็นจีโอและภาคประชาชนนอกห้องเจรจาได้ออกแถลงการณ์ทั้งรายกลุ่ม รายองค์กรตลอดวันสุดท้ายของเวทีเจรจา
“เวทีกรุงเทพ ไม่เพียงไม่สร้างความคืบหน้าให้กับกระบวนการเจรจาเพื่อนำไปสู่ข้อตกลงโคเปนเฮเกน แต่กลับทำให้กระบวนการถอยหลังกลับไปอีก” มาร์ติน กอร์ ผู้อำนวยการบริการของ South Center กล่าว
“ตัวขัดขวางใหญ่ที่สุดของความสำเร็จการเจรจาที่ทุกคนรอคอยคือ สหรัฐ ตัวการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุด นอกจากไม่ยอมแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดที่ตัวเองก่อตั้งแต่อดีตแล้ว ยังพยายามผลักดันให้การเจรจาถอยหลังไปอีก” นิโคลา บัลลาร์ด จากกลุ่ม Focus on the Global South กล่าว
“สิ่งที่สหรัฐทำจะส่งผลกระทบต่อชีวิตคนหลายพันล้านและคนรุ่นต่อไปมหาศาล” ไดน่า เฟนเตสฟิน่าจาก GCCA กล่าว
กิ่งกร นรินทรกุลกล่าวว่า ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องการวางกระบวนการที่ประชุมกรุงเทพให้ออกมาในลักษณะอย่างนี้ด้วย ทำให้ความหวังโคเปนเฮเกนริบหรี่ไปอีก
“เป็นการจงใจให้เกิดผลแบบนี้ จงใจสร้างความยืดเยื้อและเอากระบวนการ non-paper มาไว้ตอนท้ายให้สรุปไม่ได้ หากแนวโน้มเป็นเช่นนี้ เป็นไปได้สูงมากว่าเราจะไม่ได้อะไรนักจากโคเปนเฮเกนอย่างที่คาดหวังกัน โลกมีโอกาสสูงที่จะอยู่ในระยะสูญญากาศ แม้ไม่อยากเชื่อ แต่เป็นไปได้ว่าอีก 10 ปี 20 ปีจากนี้เราอาจจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ว่าจะลดก๊าซกันกี่เปอร์เซ็นต์อย่างมีพันธะสัญญา” กิ่งกรกล่าว
หลังการเจรจากรุงเทพจะตามด้วยการเจรจาห้าวันที่บาร์เซโลน่า (2-6 พ.ย.2552) ก่อนการเจรจานัดสำคัญโคเปนเฮเกน (7-18 ธ.ค. 2552)
Windows Live: Make it easier for your friends to see what you’re up to on Facebook.
Windows Live: Make it easier for your friends to see what you’re up to on Facebook.
--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
http://www.thaifreedompress.blogspot.com/
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.ksmecare.com/docSeminar/520902031848987.pdf
http://www-01.ibm.com/software/th/events/lotusliveevent/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น